ในวัว
-หอบ
-น้ำลายไหล
-เหงือกเป็นสีแดงถ้าขาวนี่คือใกล้ช็อคล่ะ
-หัวใจเต้นเร็ว
-อาการอาเจียนไม่ค่อยพบในวัวนะครับ แต่ในหมาแมวมักเป็นกัน
-หากเป็นหนักมากๆจะเดินขาอ่อนแรง ไม่สัมพันธ์กัน
-ท้องเสีย
-ชัก
อากาศที่ร้อนจัดอยู่แล้วหากเจอความร้อนที่เกิดจากอาหารที่กินเข้าไปโดยเฉพาะพวกแป้ง ไขมัน จะยิ่งทำให้เกิดความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้นครับ ซึ่งปัญหานี้มักพบในสัตว์ที่ใช้กระเพาะหมัก แต่เขาจะแก้โดยการให้อาหารจำพวกอาหารหยาบเพิ่มแทนและ เปลี่ยนเวลาให้อาหารข้นในช่วงเย็นๆหรือเช้ามืดที่แดดไม่แรงครับ
แต่หากดูจากพฤติกรรมก็สังเกตุได้ครับคือเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเขาก็จะหาที่เย็นๆเช่นใกล้น้ำโดยไปยืนใกล้ๆ หรือก็ลงไปเลย
การลดอุณหภูมิที่ดีที่สุดคือการให้น้ำอย่างเพียงพอ มีร่มเงาให้สัตว์หลบ เปิดพัดลมช่วยระบายอากาศเพราะเมื่อลมพัดผ่านผิวหนังก็จะพาเอาความร้อนออกไปได้บ้างคับ แต่เนื่องจากสัตว์เกือบทุกชนิดไม่มีต่อมเหงื่อที่ผิวหนังยกเว้นม้ากะฮิปโปที่มีเหงื่อออกระบายความร้อนได้ ทำให้การระบายความร้อนจากร่างกายจึงมักพึ่งทางลมหายใจกับการแลกเปลี่ยนอุณหภูมิของหลอดเลือดที่มาเลี้ยงผิวหนังกับสภาพแวดล้อมมากกว่า ดังนั้นหากจะทำอะไรกับตัวสัตวืในช่วงที่อากาศร้อน จะไปจับ บังคับ หลีกเลี่ยงการมัดปาก หรือครอบปากนะครับ เพราะถ้าเขาระบายความร้อนไม่ทัน หายใจไม่ทันอาจเกิดภาวะช็อคได้ ทีนี้หากเราเจอสัตว์ที่อาการแบบว่าไม่ไหวแล้วเอาพัดลมเป่า ก็แล้ว พาไปยืนใต้ร่มไม้ก็แล้วยังหอบอยู่ที่นี้เช็ดตัวด้วยน้ำเย็นไปเลยครับ ซึ่งตรงนี้มีหลายสูตรมาก บางคนบอกกลัวช็อคเพราะใช้น้ำเย็นจัดเส้นเลือดที่ผิวหนังจะหดตัวการระบายความร้อนจะยิ่งแย่ลง บางคนบอกไม่ทันล่ะยังไงต้องรีบลดอุณหภูมิให้เร็วที่สุดก็ต้องทำล่ะ อันนี้นานาจิตตังครับ ถึงหน้างานเราจะรู้เองว่าควรทำอะไร อย่าลืมเป่าพัดลมด้วยครับ เพื่อให้มีการหมุนเวียนอากาศ แต่การระบายความร้อนก็สัมพันธ์กับความชื้นในอากาศด้วยครับโดยเฉพาะกับสัตว์ สังเกตุได้ว่าหากอากาศที่ฝนตกหลังแดดออกแปปเดียว จะร้อนมาก เนื่องจากความชื้นในอากาศสูงทำให้การระบายความร้อนที่อาศัยน้ำที่ออกมากับลมหายใจช่วยพาความร้อนออกนั้นจะไม่ค่อยดี ซึ่งการลดควาชื้นในอากาศต้องเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศ(increase ventilation)ครับ
บางทีก็อาจจะต้องมีการให้น้ำเกลือช่วยด้วยครับเพื่อรักษาแรงดันเลือดกันช็อค ไตวาย หรือช่วยลดอุณหภูมิได้อีกทางนึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น